ม.เกษมบัณฑิต เดินหน้า เคบียูสปอร์ต โพลหวังสร้างประโยชน์ พัฒนากีฬาไทย

มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต เดินหน้าจัดการสำรวจ ความความเห็นประชาชนผ่าน KBU SPORT POLL เคบียูสปอร์ต โพล เพื่อหวังสร้างมุมดูที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากีฬาไทย
ดร.เสนีย์ สุวรรณดี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและก็พัฒนา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เปิดเผยว่า ในโลกเดี๋ยวนี้ทุกชาติตื่นตัวและก็ให้ความสำคัญกับการกีฬา มากขึ้นอย่างสม่ำเสมอประกอบกับกีฬาสามารถ สร้างสุขภาพและก็สังคมที่ดีพร้อมกันไปด้วย นอกจากนั้นกีฬายังเป็นยุทธศาสตร์ สำหรับการขับเคลื่อนการพัฒนา เศรษฐกิจและก็สังคมภายใต้มูลค่าที่จับต้องได้

แล้วก็จากความสำคัญดังกล่าวมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ในฐานะสถาบันอุดมศึกษา ที่มีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนกิจการ กีฬามาอย่างตลอด จึงจัดโครงการบริการทางวิชาการแก่สังคมด้วยการ จัดการสำรวจความนึกเห็นประชาชนผ่าน KBU SPORT POLL (เคบียู สปอร์ต โพล) ภายใต้การดำเนินการของศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์

ดร.เสนีย์ สุวรรณดี เผยอีกว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นหนึ่งในแผนงานที่ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

ใส่ใจและก็ให้ความสำคัญกับการสำหรับ การส่งเสริมการพัฒนา การกีฬาของประเทศ ภายใต้แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สำหรับการสำรวจความนึกเห็นดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมรวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน หรือแฟนกีฬาในการที่จะสะท้อนมุมมอง แล้วก็เสนอแนะการพัฒนา และก็ยกระดับการกีฬาของชาติตามประเด็นหรือหัวข้อที่กำหนด

ซึ่งจากการดำเนินการ ที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับจาก แฟนกีฬาเป็นอย่างมาก รวมทั้งถือว่าโพลดังกล่าวเป็นหนึ่ง ในการสร้างสีสันแล้วก็ยกระดับการตื่นตัวให้กับสังคมกีฬาไทย ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง รวมทั้งเพื่อ ประโยชน์กับวงการกีฬาไทยมหาวิทยาลัยก็จะเดินหน้าผนึกพลังร่วมกับสังคมถัดไป

ดร.เสนีย์ กล่าวต่อไปว่า การสำรวจความคิดเห็นทางด้านการกีฬาผ่าน KBU SPORT POLL นั้นศูนย์นวัตกรรมการพัฒนา ทุนมนุษย์ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งจากการติดตามการสำรวจในแต่ละประเด็น ที่ระบุนั้นล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ ต่อวงการกีฬาในรูปภาพรวมทั้งสิ้น แล้วก็ที่น่าสนใจ คือได้รับความร่วมมือจากกลุ่ม ตัวอย่างหรือประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วม ในแต่ละมิติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งผลหรือข้อมูล ที่ได้มั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ ต่อการรังสรรค์แล้วก็พัฒนาวงการกีฬาไทย ได้ในระดับหนึ่ง

ดร.เสนีย์ สุวรรณดี

ด้าน ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการ ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของ KBU SPORT POLLนั้นเพื่อสอดคล้องกับ ปรากฎการณ์ของสังคม กีฬาในแต่ละห้วงเวลาและก็เกิดเป็นประโยชน์ สูงสุดต่อสังคมโดยรวม คณะทำงานก็จะพิจารณาระบุประเด็นหรือหัวข้อที่จัดว่าตอบโจทย์แล้วก็กำลัง เป็นที่น่าสนใจของสังคมอีกทั้งในมิติที่เกี่ยวกับ การพัฒนาหรือ การขับเคลื่อนเพื่อยกระดับกีฬาไทยในภาพรวม

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ เผยอีกว่า การดำเนินการสำรวจของ KBU SPORT POLLนั้นในระยะแรก คณะทำงานและก็เครือข่ายจะลงภาคสนาม เพื่อเข้าพบกลุ่มตัวอย่างโดยตรงแต่ด้วยตอนนี้สังคม เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสุดกำลังการดำเนินการก็ง่ายและสะดวก สามารถดำเนินการได้อีกทั้งภาคสนามและสื่อออนไลน์ผสมผสานกันไป อย่างไรก็ตามเพื่อผลการสำรวจใน แต่ละประเด็นไม่สูญเปล่าสามารถนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาได้ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ก็จะสรุปสาระสำคัญต่าง ๆ เสนอไปยังหน่วยงานหรือผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬาเพื่อนำไปเป็นฐานข้อมูลสำหรับดำเนินการในมิติที่เกี่ยวข้องมาอย่างตลอดสิ่งเดียวกัน

เหนือสิ่งอื่นใด KBU SPORT POLL สำเร็จตามเป้าประสงค์รวมทั้งเดินมาถึงวันนี้ได้ นั้นในนามของมหาวิทยาลัย ต้องขอขอบคุณประชาชนหรือกลุ่มตัวอย่างที่กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ แล้วก็อีกหนึ่งภาคส่วนที่ถือว่าเป็นพลังร่วมที่สำคัญยิ่งของความสำเร็จคือสื่อมวลชน ทุกแขนงที่มีส่วนร่วมกับการเผยแพร่ข่าวสารสารสู่สาธารณชนมาอย่างตลอดเช่นเดียวกัน ผอ.ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ กล่าวทิ้งท้าย

“เคบียู สปอร์ตโพล” เผยผลของการสำรวจเชื่อ”ฟุตบอลทีมชาติไทย”มีลุ้นแชมป์ “ซีเกมส์”

ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนา ทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต KBU SPORT POLL (เคบียู สปอร์ตโพล)

ตรวจสอบความนึกเห็นเกี่ยวกับทีม”ฟุตบอลทีมชาติไทย” เรื่อง “ช้างศึกไทยกับโอกาสและความหวัง สำหรับการคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2021″ โดยได้ดำเนินการสำรวจผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 2-4 พ.ค. โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปรวมทั้งผู้ที่สนใจข่าวสารซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,369 คน (ชาย 803 คน คิดเป็นจำนวนร้อยละ 58.66 หญิง 566 คน คิดเป็นปริมาณร้อยละ 41.34) ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่าง ๆ มีดังนี้

ความสนใจ ที่จะติดตามการแข่งขัน”ฟุตบอลทีมชาติไทย” กลุ่มตัวอย่างโดยมาก ร้อยละ 81.01 สนใจ, รองลงมาปริมาณร้อยละ15.91 ยังไม่ตัดสินใจ และก็ ร้อยละ 3.08 ไม่สนใจ , สื่อหรือช่องทางที่จะติดตามการแข่งขัน ส่วนมาก จำนวนร้อยละ 36.55 โซเชียลมีเดีย, รองลงมาร้อยละ 34.19 วิทยุ-โทรทัศน์, ร้อยละ 18.97 หนังสือพิมพ์, จำนวนร้อยละ 8.11 วิทยุกระจายเสียง แล้วก็อื่นๆปริมาณร้อยละ 2.18คำถามถึงโอกาส

รวมทั้งความหวังกับการคว้าแชมป์ จำนวนมาก ร้อยละ 35.15 มีโอกาสค่อนข้างมาก, รองลงมาจำนวนร้อยละ 32.66 มีโอกาสมาก, ร้อยละ 17.06 ไม่แน่ใจ, ร้อยละ 8.11 มีโอกาสน้อย, ร้อยละ 5.39 มีโอกาสค่อนข้างน้อย และก็จำนวนร้อยละ 1.63 ไม่มีโอกาสเลย , ทีมคู่แข่งขันที่น่ากลัว จำนวนร้อยละ 38.02 เวียดนาม, รองลงมา ร้อยละ 25.59 อินโดนีเซีย ปริมาณร้อยละ 15.88, มาเลเซีย ร้อยละ 12.10, ประเทศสิงคโปร์ ร้อยละ 4.83, เมียนมา และก็อื่นๆปริมาณร้อยละ 3.58

ด้านปัจจัยที่คาดว่า จะมีผลต่อความสำเร็จ จำนวนมากปริมาณร้อยละ 31.21 สมรรถนะรวมทั้งความสามารถ ของนักกีฬา, รองลงมาจำนวนร้อยละ 26.87 ระยะเวลาในการจัดแจงทีม, ปริมาณร้อยละ 22.60 สมรรถนะของผู้ฝึก ร้อยละ 11.49 ผู้จัดการทีมและผู้ผลักดันและสนับสนุนเบื้องหลัง จำนวนร้อยละ 6.10 แรงเชียร์จากแฟนกีฬา รวมทั้งอื่นๆปริมาณร้อยละ 1.73

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัย เกษมบัณฑิต

เปิดเปิดเผยว่าจากผลการสำรวจ จะมองเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนมากต่างให้ความสนใจ ที่จะติดตามการแข่งขัน เพราะเหตุว่าฟุตบอลในกีฬาซีเกมส์เป็น การแข่งขันแห่งศักดิ์ศรี ที่ทุกชาติต่างมุ่งหวังที่จะคว้าเหรียญทองทั้งสิ้น ประกอบกับการแข่งขันในครั้งที่แล้วทีมชาติไทยตกรอบแรกซีเกมส์ ในครั้งนี้ก็เลยทำให้แฟนกีฬาตื่นตัวที่จะติดตามเกมมากเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า”ฟุตบอลทีมชาติไทย” จะประสบกับปัญหาในการจัดแจงทีม รวมทั้งขาดผู้เล่น ร่วมทีมหลายรายก็ตาม แต่แฟนกีฬายังเชื่อว่าทีม “ช้างศึก” มีโอกาสแล้วก็ความหวังค่อนข้างมาก กับการที่จะคว้าแชมป์มาครองได้ ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่แฟนบอลคาดหวัง ต่างมุ่งไปที่การรบรถนะหรือฝีเท้าของผู้เล่น รวมทั้งแม้พิจารณา ถึงทีมคู่แข่งจะมองเห็นได้ทีมเวียดนามในฐานะเจ้าบ้านแล้วก็แชมป์เก่า เป็นทีมที่น่ากลัว

“ถ้าหากพิจารณาในรูปภาพรวม สำหรับการเข้าร่วม การแข่งขันของทีมชาติไทย ในรายการนี้ถ้าหากพิจารณาถึงชื่อเสียง เกียรติแล้วก็ศักดิ์ศรีของประเทศแล้วมั่นใจว่าด้วยความมุ่งมั่นของผู้จัดการทีมคือ นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ภายใต้การผนึกพลังด้วยกันของทุกฝ่ายเชื่อว่าทีม”ฟุตบอลทีมชาติไทย” น่าจะคว้าแชมป์แล้วก็สร้างความสุขให้กับแฟนกีฬา” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.รัฐพงศ์ กำหนด