ช่วงพีคของทุกปี GISTDA เทียบพื้นที่น้ำท่วมปี 2554 – 2564 – 2565 ต่างกัน 3 เท่า

GISTDA เทียบพื้นที่น้ำท่วมไทยช่วงเดือนกันยายน 2554, 2564 และ 2565 พบว่าปริมาณน้ำท่วมขังในตอนนี้ยังห่างอยู่ 3 เท่าตัว

วันที่ 6 ตุลาคม 2565 มีรายงานว่า GISTDA เปิดเผยข้อมูลภาพจากดาวเทียมแสดงสถานการณ์น้ำท่วมของเดือนกันยายนปี 2554, 2564 และ 2565 พบว่าปี 2554 มีปริมาณน้ำท่วมขังทั่วทั้งประเทศ ปริมาณ 15,996,150 ไร่, ปี 2564 ปริมาณ 5,648,252 ไร่ และในปี 2565 (ล่าสุด) เจอพื้นที่น้ำท่วมขังปริมาณ 5,331,739 ไร่ โดยเหตุนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 พบว่าปริมาณน้ำท่วมขังในตอนนี้ยังห่างอยู่ 3 เท่าตัว

สถานการณ์น้ำในตอนนี้ หลายคนกังวลเป็นอย่างมากว่าจะท่วมหนักเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนหรือไม่ เหตุเพราะว่าด้วยปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสายส่งผลให้เกิดน้ำสะสมในหลายพื้นที่ ประกอบกับลมพายุโนรูที่เพิ่งแผลงฤทธิ์ไปสดๆร้อนๆเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายและน้ำท่วมในหลายพื้นที่

ทั้งยังปริมาณน้ำในลำธารและอ่างเก็บน้ำหลายแห่งเริ่มล้นแล้ว เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมมากขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลพวงทุกหนทุกแห่งทำความเสียหายในหลายพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูลที่มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงมากขึ้น น้ำระบายไม่ทัน รอการระบาย สิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง คือปริมาณฝนที่ตกลงมาเพิ่มขึ้นอีกในพื้นที่ที่จะส่งผลให้น้ำท่วมเพิ่มสูงมากขึ้น รวมถึงพื้นที่จ.กรุงเทพฯและปริมณฑล

ถ้าหากมองย้อนกลับไปในช่วงของปี 2554 และปี 2564 ของเดือนกันยายน จะเห็นได้ว่าปี 2554 ประเทศไทยมีพื้นที่น้ำท่วมขังมากกว่าปี 2565 แต่ว่าทั้งนี้ปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้นส่งผลให้ฝนมาเร็วกว่าปี 2564

ช่วงพีคของทุกปี GISTDA เทียบพื้นที่น้ำท่วมปี 2554 - 2564 - 2565 ต่างกัน 3 เท่า

ส่องมวลน้ำรายภูมิภาค เทียบระหว่างปีมหาอุทกภัย 2554 กับปีปัจจุบันนี้ 2565

ก.ย. 2554

ภาคเหนือ 350,015 ไร่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4,412,704 ไร่
ภาคกลาง 9,702,429 ไร่
ภาคตะวันออก 1,207,294 ไร่
ภาคตะวันตก 258,127 ไร่
ภาคใต้ 65,581 ไร่

ก.ย. 2565

ภาคเหนือ 154,456 ไร่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,955,311 ไร่
ภาคกลาง 2,814,646 ไร่
ภาคตะวันออก 147,844 ไร่
ภาคตะวันตก 259,481 ไร่
ภาคใต้ 0 ไร่